ความแตกต่างระหว่าง รักกะชอบ
ต่อหน้าคนที่คุณรักหัวใจคุณเต้นรัว ต่อหน้าคนที่คุณชอบคุณรู้สึกมีความสุข
ต่อหน้าคนที่คุณรักฤดูหนาวเป็นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ ต่อหน้าคนที่คุณชอบฤดูหนาวเป็นฤดูหนาวที่งดงาม
ถ้าคุนจ้องหน้าคนที่คุณรักคุณจะหน้าแดง ถ้าคุณจ้องตาคนที่คุณชอบคุณจะยิ้มออกมา
ต่อหน้าคนที่คุณรักคุณไม่สามารถพูดทุกสิ่งในใจคุณได้ ต่อหน้าคนที่คุณชอบคุณทำได้
ต่อหน้าคนที่คุณรักคุณจะเขินอาย ต่อหน้าคนที่คุณชอบคุณเปิดเผยความเป็นคุณได้
คนที่คุณรักมักเข้ามาอยุ่ในใจคุณทุก2นาที
คุณไม่สามารถสบตาคนที่คุณรักตรงๆได้ แต่คุณยิ้มและสบตาคนที่คุณชอบตรงๆได้
เมื่อคนที่คุณรักร้องไห้คุณจะร้องไห้ไปกับเขา แต่เมื่อคนที่คุนชอบร้องไห้คุณจะปลอบเขา
ความรู้สึกรักเริ่มต้นจากดวงตา ความรู้สึกชอบเริ่มต้นที่หู ฉะนั้นถ้าคุณจะเลิกชอบคนที่คุณชอบก็แค่ปิดหูของคุณเท่านั้นก็พอ แต่ถ้าคุนพยายามจะปิดตา รักจะกลายเป็นนํ้าตา และเมื่อคุณเปิดตาขึ้นอีกครั้ง .... คุณก็จะได้รู้ว่า สิ่งที่คุณเสียไปคือคนที่คุณรักมากที่สุด
พระเยซูเจ้า...ช่วยวิงวอนเทอญ
ลูกรักแม่พระ
POPE เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก
นักบุญอัญเจลา...นักบุญประจำตัว
วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552
เหนื่อยกับชีวิต
.....ฉันเชื่อว่า มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนต่างก็เหมือนๆกัน...นั่นคือ ไม่มีใครจะมีความสุขได้ตลอดเวลา หรือ มีความทุกข์ได้ตลอดเวลา...ทุกครั้งที่ความสุขหมดลง... ความทุกข์ก็เข้ามาแทนที่ ….เป็นอยู่อย่างนี้ วนเวียน ไม่รู้จบ ….บางครั้ง เมื่อเราทุกข์ท้อใจมากๆ กับปัญหาในชีวิต...คำถามที่ว่า เราเกิดมาทำไม ? มีชีวิตเพื่ออะไร ?... ก็พรั่งพรูเข้ามาเกินกว่าจะตอบได้ทัน...จำข้อความหนึ่งที่ตัวเองเคยอ่านพบในหนังสือธรรมะเล่มหนึ่งได้ว่า..."บางทีมนุษย์ก็หลงลืมไปว่า หน้าที่หลักที่แท้ จริงของเรานั้นคืออะไร" ...การที่เราทำงานหาเลี้ยงชีพ มุ่งมั่นสร้างความสำเร็จ ความร่ำรวยความมีชื่อเสียงให้กับตัวเองนั้น ล้วนแล้วแต่เป็น ‘ งานรอง ’ ทั้งสิ้น แต่เรากลับใช้เวลาส่วนใหญ่ง่วนอยู่กับ ‘ งานรอง’...จนเข้าใจผิดคิดว่ามันคือ ‘ งานหลัก ’ ของชีวิต ... ซึ่ง ‘ งานหลัก’ ที่แท้จริงคือ การตามดูใจของตนเอง ... ผลที่ตามมาจึงกลายเป็นว่า... เรากำลังหลงทาง...และปล่อยให้ชีวิตตัวเองต้องไล่ล่าสิ่งที่อยู่ภายนอกโดยไม่สิ้นสุด!เพราะเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คือ... ตัวช่วยเติมเต็มให้ชีวิตเรานั้นสมบูรณ์ได้ความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่ว่านี้ จึงมีอยู่ 2 อย่างคือ … ผิดหวังที่ไม่ได้มา กับ … บังคับตัวเองไม่ได้ที่จะพอ อยู่เรื่อยไปและเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ … อยากให้คุณได้ลองถามตัวเองดูว่าที่คุณกำลัง ‘ เหนื่อย’ อยู่นี้น่ะ มันมาจาก ‘ งานรอง’ ในชีวิตทั้งนั้นใช่หรือไม่ …และถ้าหากมันใช่แล้ว ขอให้ถามตัวเองอีกคำถามว่าแล้ว ‘ งานหลัก ’ ของคุณล่ะ ได้เคยทำมันบ้างแล้วรึยัง … ?
วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552
...รัก...
"รัก..."
การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลว่าทำไมเราจึงไปรักเขาได้แต่ให้รู้ไว้ว่าทุกวันนี้เรารักเขาและต้องรักให้ดีที่สุดก็พอการที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องสนว่าหนทางข้างหน้าจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหนแต่ควรนึกขอบคุณโชคชะตาที่สร้างให้มีอุปสรรคเพื่อให้เราทั้งสองได้ร่วมฟันฝ่าไปด้วยกันการที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องไปเสียเวลาคิดว่าเขาทำอะไรเพื่อเราบ้างแต่ให้มานั่งถามตัวเองดูว่า วันนี้เราทำอะไรเพื่อคนที่เรารักแล้วหรือยังการที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องไปมัวระแวงว่าเขาจะไปมีใครอื่นนอกเหนือจากเราแต่ควรระวังใจของตัวเองให้เข้มแข็งพอที่จะไม่รับใครเข้ามาในใจอีกการที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องไปขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตของเขา ว่าเขาเคยมีใครยังไงแต่ให้คิดไว้ว่าทุกวันนี้มีเขาและเราอยู่ด้วยกัน...อดีต..ถึงอย่างไรก็คืออดีตการที่เราจะรักใครสักคน...เมื่อทะเลาะกัน คำว่าแพ้หรือชนะ ก็ไม่สำคัญเราจึงยอมให้เขาเป็นฝ่ายชนะเสมอ ถ้าทำให้เขาสบายใจการที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ควรพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเขาแต่ควรพยายามปรับตัวเองให้เข้ากับเขาจะดีกว่าการที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ควรหูเบาเพราะอาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนที่เรารักได้การที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ใช่การสัมผัสกันด้วยร่างกายแต่เป็นการสัมผัสกันด้วยหัวใจต่างหากการที่เราจะรักใครสักคน...ไม่จำเป็นต้องบอกรักกันทุกวันเพราะการที่เราคอยห่วงใยกันอยู่เสมอๆ ก็สามารถทดแทนคำว่ารักได้ดีแม้สักล้านคำการที่เราจะรักใครสักคน...ไม่เกี่ยวกับสิ่งของนอกกายใดๆ เลยเพราะความรักไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน หรือแลกมาได้ด้วยทรัพย์สินการที่เราจะรักใครสักคน...ไม่ต้องคอยนับว่าเขามีข้อเสียมากมายสักกี่ข้อเพราะข้อดีของเขาก็มีมากพอที่จะทำให้เราลืมข้อเสียทั้งหมดของเขาได้การที่เราจะรักใครสักคน....ไม่จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลาแค่เรามีเขาอยู่ในใจทุกนาทีก็พอการที่เราจะรักใครสักคน...เมื่อเห็นเขาเสียใจไม่ต้องรอจนกระทั่งเขาเสียน้ำตา แล้วค่อยเข้าไปปลอบใจแต่ควรรีบเข้าไปแบ่งเบาความทุกข์ของเขาเสียตั้งแต่เมื่อเราเห็นเขาเงียบๆ ซึมๆ ไปเพราะหากเราปล่อยเขาไว้จนสายเกินผลสุดท้ายแล้วคนที่จะเสียใจที่สุดเมื่อรู้ตัวก็คือตัวเราเองการที่เราจะรักใครสักคน...อย่ารอที่จะบอกรัก ให้รีบบอกคนที่เรารักซะก่อนที่จะไม่มีเขาคนนั้นให้บอกอีกต่อไปการที่เราจะรักใครสักคน...แม้ว่าอาจทำให้เราตาบอดแต่ก็ทำให้เราได้รับรู้และเข้าใจ ว่าความสุขจากการที่ได้รักใครสักคนมันมีมากมายแค่ไหนการที่เราจะรักใครสักคน...จงเชื่อมั่นในตัวเขาให้มากๆการที่เราจะรักใครสักคน...ง่ายยิ่งกว่าการพยายามลบเขาออกไปจากหัวใจ...ความรัก สอนให้เราได้เรียนรู้หลายๆสิ่งความรักเป็นบทเรียนดีๆ ที่ไม่อาจเข้าใจได้ถ่องแท้ถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเองความรัก ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทำให้เราเข้าใจอะไรๆ มากขึ้นความรัก ทำให้เราเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบนี่คือสิ่งที่เราได้เรียนรู้ ....จากการที่เราได้....รัก....ใครสักคน...
บ้าน...ของหัวใจ
หัวใจที่เข้มแข็งเท่านั้นที่จะพาชีวิตผ่านมรสุมไปได้
ในยามที่ชีวิตเกิดปัญหาไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหน
ขอเพียงเรารู้วิธีการที่จะรับมือ...
ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องยาก
การที่เราพบเจอกับปัญหาในแต่ละวัน
ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือใหญ่โตแค่ไหน
เราก็ต้องค่อยๆ หาวิธีแก้ไขอย่างใช้สติ
และทำให้ทุกปัญหาที่ผ่านเข้ามาเป็นภูมิคุ้มกันชีวิต
รู้จักเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาด
รู้จักนำสิ่งที่ผิดพลาดมานำทางชีวิต
และทำชีวิตให้แข็งแรงมากขึ้น...
ค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์
หนึ่งประสบการณ์ที่เราเคยผ่านจะกลายเป็น
อิฐหนึ่งก้อนที่ก่อร่างสร้างฐานให้หัวใจเข้มแข็งขึ้น
หลายประสบการณ์จะกลายเป็นบ้านหนึ่งหลัง
โลกเราหมุนไปทุกวัน...
ไม่มีใครบอกได้ว่าพรุ่งนี้ชีวิตต้องเจอกับอะไร
ลมฝนหรือพายุรุนแรงแค่ไหน...
แต่ถ้าวันนี้เราได้สร้างบ้านที่แข็งแรงเอาไว้ในหัวใจแล้ว
ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอแรงกระทบจากสิ่งรอบตัว
ต่อให้พายุแรงแค่ไหน...ชีวิตก็มีที่หลบภัย...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)